ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการเข้มงวดของกฎระเบียบของรัฐ ตลาดคริปโตได้ซบเซาในช่วงต้นปี 2022 นับตั้งแต่ที่บิทคอยน์ทำจุดสูงสุดที่ 69,000 ดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ราคาก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน สินทรัพย์สปอตก็เผชิญกับการลดลงของมูลค่าอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม นักเก็งกำไรบางรายยังคงสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอและแม้กระทั่งเพิ่มความมั่งคั่งเป็นสองเท่าในตลาดขาลง ความลับของพวกเขาอยู่ที่การเทรดสัญญา

แม้ว่าการเทรดสัญญาจะให้ผลตอบแทนสูง แต่ผู้เริ่มต้นบางรายอาจสับสนกับแนวคิดพื้นฐานและคำศัพท์เฉพาะของสัญญา นักลงทุนเหล่านี้มักจะตื่นเต้นกับกำไรที่เพื่อนๆ ทำได้และกังวลว่าพวกเขาอาจพลาดโอกาส ดังที่นีทเช่กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ต้องการเรียนรู้การบินสักวันหนึ่งต้องเรียนรู้การยืนก่อน ในการเทรดสัญญา การเปิดออร์เดอร์ผิดนั้นแย่กว่าการไม่เปิดออร์เดอร์เลย ก่อนที่จะเริ่มต้น เราต้องเรียนรู้ก่อนว่าการเทรดสัญญาคืออะไร รวมถึงความหมายของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

การเทรดสัญญาคืออะไร?

การเทรดสัญญาเป็นอนุพันธ์คริปโตประเภทหนึ่งที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของฟิวเจอร์ส การเทรดสปอตแบบดั้งเดิมเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อผู้ขายส่งมอบสินค้าจริงเมื่อผู้ซื้อชำระเงิน ในการซื้อขายฟิวเจอร์สแบบดั้งเดิมซึ่งพัฒนามาจากการเทรดสปอต ผู้ซื้อและผู้ขายทำสัญญาหลังจากตกลงราคาและวันที่แล้ว และทั้งสองฝ่ายจะโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าตามสัญญาเมื่อถึงวันที่กำหนดและชำระเงิน

ในวงการคริปโต สัญญามีลักษณะคล้ายกับฟิวเจอร์สแบบดั้งเดิม ยกเว้นว่ามีรูปแบบใหม่ที่เรียกว่าสัญญาถาวรที่อนุญาตให้ผู้ซื้อและผู้ขายถือครองสัญญาได้ไม่มีกำหนด (คือไม่มีวันส่งมอบ)

อะไรทำให้การเทรดสัญญาได้รับความนิยม (โดยเฉพาะในตลาดขาลง)?

พูดตรงๆ ในการเทรดสปอต คุณชอบคริปโตเคอร์เรนซีตัวหนึ่งแล้วลงทุนในมัน เมื่อราคาคริปโตเพิ่มขึ้น คุณขายเพื่อทำกำไร เมื่อราคาลดลง คุณสามารถรอให้ราคาพุ่งขึ้นเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีเพียงวิธีเดียวในการทำเงิน แม้ว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลในตลาดขาขึ้น แต่เมื่อตลาดซบเซา คุณสามารถถือครองคริปโตที่คุณซื้อไว้และดูมูลค่าของมันลดลงเท่านั้น ในทางกลับกัน การเทรดสัญญาเปิดโอกาสให้ทำกำไรได้แม้ตลาดจะผันผวน แน่นอนว่าวิธีการทำเงินแบบใหม่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ดังนั้น เราต้องเข้าใจการเทรดสัญญาอย่างถ่องแท้เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนให้สูงสุด

สองทิศทาง

Long buy: ผู้ใช้ A เชื่อว่าราคา BTC จะเพิ่มขึ้น สมมติว่าราคา BTC ปัจจุบันอยู่ที่ 40,000 USDT เขาใช้เงิน 4,000 USDT ซื้อ 0.1 BTC ด้วยเลเวอเรจ 10 เท่า เมื่อราคาเพิ่มขึ้นเป็น 45,000 USDT เขาก็สามารถขายคริปโตเพื่อทำกำไร โดยสรุป วิธีนี้เรียกว่า "ซื้อก่อน & ขายทีหลัง"

Short sell: ผู้ใช้ B คิดว่าราคา BTC จะลดลง สมมติว่าราคา BTC ปัจจุบันอยู่ที่ 40,000 USDT เขาใช้เงิน 4,000 USDT สำหรับ 0.1 BTC และขายที่ถือครองด้วยเลเวอเรจ 10 เท่า เมื่อราคาลดลงเป็น 35,000 USDT เขาก็สามารถซื้อคริปโตเพื่อทำกำไร โดยสรุป วิธีนี้เรียกว่า "ขายก่อน & ซื้อทีหลัง"

การเปิดสถานะ

เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้วิธีใดแล้ว คุณจะต้องซื้อ/ขายฟิวเจอร์ส/สัญญาเพื่อเปิดสถานะของคุณหรือปล่อยให้ว่างไว้ หากไม่มีสัญญาณขาลง/ขาขึ้นที่ชัดเจน เราแนะนำให้เริ่มจากการลงทุน/สถานะขนาดเล็ก

เลเวอเรจ

เมื่อเปิดสถานะ นอกจากการลงทุนเงินแล้ว คุณจะต้องเลือกเลเวอเรจด้วย ซึ่งโดยทั่วไปจะแสดงด้วย "x" — 3x หมายถึงอัตราเลเวอเรจสามเท่า ปัจจุบัน เว็บเทรดหลักๆ มักให้เลเวอเรจตั้งแต่ 1x ถึง 100x

สถานะเต็ม

สถานะเต็มหมายถึงการทุ่มเทเงินทั้งหมดในสัญญา วิธีนี้มาพร้อมกับความเสี่ยงมหาศาล การเปิดสถานะเต็มเหมือนกับการข้ามแม่น้ำรูบิคอน และสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าคือความรุ่งโรจน์หรือความตาย ดังนั้น จึงไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่รอบคอบ

ช่องว่างกำไรที่เฉพาะเจาะจงระหว่างการเทรดสปอตและการเทรดสัญญาในตัวอย่างข้างต้นจะอธิบายในบทความถัดไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับแนวคิดใหม่ๆ เช่น มาร์จิ้นของสถานะและอัตรามาร์จิ้น แน่นอนว่าคุณสามารถไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของ CoinEx เพื่อดูตัวอย่างแนวคิดเหล่านี้ได้เสมอ

เงื่อนไขการเทรดสัญญาที่คุณควรเรียนรู้ก่อนเปิดคำสั่งซื้อขาย