ไตรมาสแรกของปี 2025 เป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมคริปโต ตั้งแต่ความเคลื่อนไหวของตลาดที่ผันผวน นโยบายที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไปจนถึงการอัปเกรดทางเทคนิคและการยอมรับที่เพิ่มขึ้นในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าสกุลเงินดิจิทัลได้ฝังรากลึกในด้านการเงินและเทคโนโลยีระดับโลกมากเพียงใด นี่คือภาพรวมของเหตุการณ์สำคัญที่สุดจากไตรมาสที่ 1 ปี 2025

1. Bitcoin พุ่งแตะ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯ ยอมรับคริปโตในปี 2025

ตลาดคริปโตเริ่มต้นปี 2025 ด้วยเหตุการณ์สำคัญ เมื่อ Bitcoin พุ่งสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม การเพิ่มขึ้นของราคาเกิดขึ้นหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ตอกย้ำบทบาทของ Bitcoin ในฐานะเครื่องมือป้องกันความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

เพียงสองเดือนต่อมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศแผนการสร้างคลังสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสำคัญพิจารณาที่จะถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin , Ethereum , Solana และ Cardano เป็นทุนสำรองอย่างเป็นทางการ ไม่กี่วันต่อมา ทำเนียบขาวได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดคริปโตเพื่อหารือนโยบายที่ส่งเสริมนวัตกรรม

ความตื่นเต้นทางการเมืองยังส่งผลไปถึงเหรียญมีม โดยมีการเปิดตัวโทเค็น TRUMP และ MELANIA บน Solana เหรียญเหล่านี้ผสมผสานการเมืองและวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต แสดงให้เห็นว่าคริปโตได้เข้าสู่กระแสหลักอย่างลึกซึ้งเพียงใด

2. ความผันผวนของราคา Bitcoin ท่ามกลางตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ

Bitcoin แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของราคาตลอดไตรมาสที่ 1 ปี 2025 โดยตอบสนองต่อสัญญาณทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ในเดือนกุมภาพันธ์ ราคาดีดตัวขึ้นเป็น 82,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากรายงานแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ราคากลับลดลงอีกครั้งเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้

เมื่อถึงสิ้นเดือนมีนาคม Bitcoin ได้รับแรงผลักดันอีกครั้งหลังจากตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจถูกปรับลดลง ทำให้เกิดความหวังว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ความเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าราคา Bitcoin มักจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเพื่อตอบสนองต่อข้อมูลเงินเฟ้อ การอัปเดตอัตราดอกเบี้ย และข่าวสารทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

3. การแฮ็ก Bybit นำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่ในไตรมาสที่ 1

แม้จะมีความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นในตลาดคริปโต แต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2025 ก็เน้นย้ำถึงความท้าทายด้านความปลอดภัยที่ยังคงมีอยู่ แฮกเกอร์ขโมยเงินไปอย่างน่าตกใจถึง 1.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าสองเท่าของการสูญเสียจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดคือการละเมิดครั้งใหญ่ของ Bybit ซึ่งคิดเป็นกว่า 92% ของการสูญเสียทั้งหมด สิ่งนี้จุดประกายความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์อีกครั้ง ตอกย้ำสุภาษิตเก่าแก่ที่ว่า "ไม่ใช่กุญแจของคุณ ก็ไม่ใช่เหรียญของคุณ"

เดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายเป็นพิเศษ โดยมีการโจมตีเพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Infini (50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ), zkLend (9.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และ Ionic (8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนว่า แม้ว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การแลกเปลี่ยนต้องให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องเงินทุนของผู้ใช้

4. การอัปเกรด Pectra ของ Ethereum ใกล้เข้าสู่ Mainnet มากขึ้น

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม Ethereum บรรลุขั้นตอนสำคัญด้วยการเปิดตัว testnet ที่ประสบความสำเร็จของการอัปเกรด Pectra นี่คือการอัปเดตที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ The Merge และรวมการอัปเกรดสองรายการที่เรียกว่า Prague และ Electra Pectra นำเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น account abstraction, ขีดจำกัดการ staking ที่สูงขึ้นสำหรับผู้ตรวจสอบ และการสนับสนุนที่ดีขึ้นสำหรับ rollups ซึ่งทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อให้ Ethereum ใช้งานและปรับขนาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเครือข่าย Layer 2

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือผู้ใช้จะสามารถชำระค่าธรรมเนียม gas โดยใช้โทเค็นอื่นที่ไม่ใช่ ETH ได้ในเร็วๆ นี้ สิ่งนี้สามารถขจัดอุปสรรคทั่วไปสำหรับผู้ใช้ใหม่และทำให้เครือข่ายเป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นมากขึ้น ในขณะที่ยังคงรักษาความปลอดภัยและการกระจายอำนาจไว้

ตอนนี้ขั้นตอน testnet เสร็จสมบูรณ์แล้ว นักพัฒนากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัว mainnet ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2025 หลังจากตรวจสอบขั้นสุดท้าย การอัปเกรดช่วยให้ Ethereum ยังคงเป็นผู้นำในฐานะแพลตฟอร์ม smart contract ชั้นนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบล็อกเชนที่เร็วกว่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

5. ธนาคารและบริษัท Fintech แห่กันออก Stablecoin ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ

ตลาด Stablecoin กำลังร้อนแรงขึ้นเนื่องจากธนาคารขนาดใหญ่และบริษัทฟินเทคต่างเร่งเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของตน ด้วยปริมาณธุรกรรมรายเดือนที่พุ่งสูงขึ้นถึง 710 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำให้ยักษ์ใหญ่ทางการเงินอย่าง Bank of America, PayPal และ Stripe เข้าสู่ตลาดเพื่อแข่งขันกับผู้เล่นรายเดิมอย่าง USDT และ USDC

การเร่งรีบนี้เกิดขึ้นเนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และสหราชอาณาจักร กำลังสรุปกฎที่ชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับ Stablecoin ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนสำหรับการนำไปใช้ในระดับสถาบัน บริษัทต่างๆ มองว่า Stablecoin เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน การส่งเงินกลับประเทศ และธุรกรรมขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่ที่การธนาคารแบบดั้งเดิมยังล้าหลัง

การเข้าซื้อแพลตฟอร์ม Stablecoin Bridge ของ Stripe ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการมุ่งเน้นไปที่การชำระเงินด้วย AI แสดงให้เห็นว่าบริษัทฟินเทคกำลังเดิมพันครั้งใหญ่กับการเปลี่ยนแปลงนี้ เมื่อกฎระเบียบมีความชัดเจนมากขึ้น คาดว่าจะมีธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินเข้าร่วมกระแส Stablecoin มากยิ่งขึ้นในปี 2025

6. AI Agents กลายเป็น Game-Changers ในไตรมาสที่ 1 ปี 2025

ในไตรมาสแรกของปี 2025 ยังได้เห็นการผสานรวมของ AI และ Blockchain เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถดำเนินงานได้โดยไม่ต้องมีส่วนร่วมจากมนุษย์ ผู้นำในการเปลี่ยนแปลงนี้คือ Artificial Superintelligence Alliance (ASI) ซึ่งรวม Fetch.ai, SingularityNET และ Ocean Protocol เพื่อพัฒนา AI แบบกระจายอำนาจ Virtual protocol ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อทำหน้าที่เป็น Launchpad ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง ปรับใช้ และ Tokenize AI Agents ได้โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคใดๆ

ภาคการเงินยังได้นำแนวโน้มนี้มาใช้ โดย Eliza (เดิมชื่อ AI16Z) ดำเนินงานในฐานะกองทุนซื้อขาย AI แบบกระจายอำนาจบน Solana นวัตกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า AI Agents ไม่เพียงแต่ปรับปรุงแอปพลิเคชัน Blockchain เท่านั้น แต่ยังสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญสำหรับเทคโนโลยีกระจายอำนาจ

7. Coinbase นำ Lightning Network มาใช้เพื่อการชำระเงิน Bitcoin ที่รวดเร็วและถูกกว่า

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม Coinbase ได้ก้าวไปข้างหน้าครั้งสำคัญด้วยการบูรณาการ Lightning Network ของ Bitcoin การอัปเกรดนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานหลายล้านคนสามารถส่ง Bitcoin ได้ทันทีด้วยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่น้อยมาก ด้วยความร่วมมือกับ Lightspark การบูรณาการนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในฟังก์ชันการทำงานของ Bitcoin ซึ่งเป็นมากกว่าแค่การเป็นแหล่งเก็บมูลค่า

การเคลื่อนไหวนี้แสดงถึงก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการทำให้ Bitcoin สามารถใช้งานได้จริงสำหรับการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน ด้วยการเปิดใช้งานการชำระเงินที่รวดเร็วและถูกกว่า Coinbase กำลังช่วยให้ Bitcoin แข่งขันกับระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิม ในขณะที่ยังคงรักษาลักษณะการกระจายอำนาจไว้ การพัฒนานี้อาจเร่งการนำ Cryptocurrency มาใช้ในกระแสหลักสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

8. ฮ่องกงขยายใบอนุญาต Crypto

ในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้รับความสนใจจากแผนสำรอง Crypto ฮ่องกงได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองอย่างเงียบๆ ในฐานะศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของเอเชียในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2025 หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของฮ่องกงมีความคืบหน้าอย่างมากในการสร้างกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจน โดยออกใบอนุญาตการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ฉบับที่ 10 พร้อมกับการแนะนำกฎใหม่สำหรับการซื้อขายแบบ Over-the-Counter และการคุ้มครองสินทรัพย์

กฎระเบียบ Stablecoin ที่กำลังจะมาถึงของรัฐบาลให้ความชัดเจนที่จำเป็นมากสำหรับนักลงทุนและธุรกิจ แนวทางที่มองการณ์ไกลนี้ดึงดูดผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรม โดยบริษัทต่างๆ เช่น HashKey Capital ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการให้ขยายบริการ Crypto ของตน การประชุม Consensus Hong Kong 2025 ที่ประสบความสำเร็จยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในระดับนานาชาติ เสริมสร้างชื่อเสียงของเมืองในฐานะจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการลงทุน Blockchain

มองไปข้างหน้า

ไตรมาสแรกของปี 2025 แสดงให้เห็นว่า Cryptocurrency มีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่นโยบายของรัฐบาลไปจนถึงการชำระเงินในชีวิตประจำวัน Crypto ยังคงเคลื่อนเข้าสู่กระแสหลัก

การพัฒนาที่สำคัญ เช่น Blockchain ที่ขับเคลื่อนด้วย AI การนำ Stablecoin มาใช้ และการอัปเกรดของ Ethereum ล้วนชี้ไปที่สิ่งหนึ่ง: Crypto กำลังเติบโตขึ้น ด้วยการที่แม้แต่รัฐบาลก็เข้ามามีส่วนร่วม ไตรมาสนี้อาจถูกจดจำว่าเป็นช่วงเวลาที่สินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินของเราอย่างแท้จริง

ช่วงเวลาที่เหลือของปี 2025 ดูเหมือนว่าจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงพัฒนาต่อไป และผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มใช้งานในชีวิตประจำวัน

ความสำเร็จครั้งสำคัญของ Crypto ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2025