ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทุกครั้งนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำงานของเรา การแนะนำของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการทำงาน และตอนนี้ก็คือ Web3 และ DAO

เวิลด์ไวด์เว็บได้พัฒนามาถึงยุคที่สามแล้ว Web3 คือการกระจายอำนาจที่มากขึ้น มีความโปร่งใส และการเป็นเจ้าของร่วมกันคือคุณลักษณะบางอย่างที่กำหนดของระบบนี้ ซึ่งสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล

Web3 จะปฏิวัติการทำงานอย่างที่เราทราบกันดี นอกจากนี้องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (Decentralized autonomous organization) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า DAO จะเป็นแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้

ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า DAO และ Web3 สามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของเราได้อย่างไร

DAO ใน Web3 คืออะไร?

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ DAO ใน Web3

องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (Decentralized autonomous organization)หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อ DAO เป็นวิธีที่แปลกใหม่ในการแสดงออกถึงองค์กรที่ไม่มีใครรับผิดชอบ ไม่มีผู้นำที่รับผิดชอบในการตัดสินใจในนามของสมาชิกในองค์กร ในทางกลับกัน ชุมชนของ DAO มีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันในการตัดสินใจที่เหมาะสมทั้งหมด และตัดสินใจตามชุดกฎเริ่มต้นที่บังคับใช้บนบล็อกเชน สมาชิกขององค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO) ต้องรับทราบและตกลงที่จะปฏิบัติตามกฎที่ควบคุมของ DAO เป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วม DAO

หลักการสำคัญของ DAO

ความเป็นอิสระ: องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO) มีความเป็นอิสระดำเนินธุรกิจโดยใช้แนวทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งเขียนไว้ในสัญญาอัจฉริยะ กฎเหล่านี้ควบคุมการตัดสินใจ การจัดสรรเงินทุน และการดำเนินงานประจำวันขององค์กร

โทเค็น(Tokenization): ในองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO) สมาชิกจะเป็นเจ้าของโทเค็นที่แสดงถึงสัดส่วนการถือหุ้นในองค์กร การลงคะแนนเสียงในข้อเสนอ การกระจายเงินทุน และการสรุปผลการตัดสินใจเสร็จสิ้นด้วยโทเค็นเหล่านี้

ความโปร่งใส: หมายถึงความจริงที่ว่าสมาชิกทุกคนของ DAO สามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับกฎขององค์กรและการดำเนินงานประจำวันได้ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าการตัดสินใจนั้นโปร่งใสและเป็นประชาธิปไตย และสมาชิกทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลสำหรับการอภิปรายได้อย่างเท่าเทียมกัน

ฉันทามติ: บรรลุข้อตกลงเมื่อสมาชิก DAO ใช้โทเค็นของตนเพื่อลงคะแนนในข้อเสนอต่างๆ นี่คือวิธีการตัดสินใจใน DAO สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่ามีการตัดสินใจร่วมกันและองค์กรดำเนินงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิก

สถาปัตยกรรมใหม่ของ DAO

DAO ใช้โครงสร้างสัญญาอัจฉริยะและโทเค็นดิจิทัลที่ยืนยันบนบล็อกเชนสาธารณะ เช่น Ethereum เพื่อให้สมาชิก DAO มีโอกาสเข้าร่วมโดยตรงในการกำกับดูแลของ DAO ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจใน DAO จึงมีการกระจายอำนาจและขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนนเสียงหรือโทเค็นที่ข้อเสนอเฉพาะได้รับ ในองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิก ทุกคนสามารถรับโทเค็นได้โดยไม่ต้องขออนุมัติล่วงหน้า

DAO ให้ความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์แก่สมาชิกโดยเขียนกฎทั้งหมดและธุรกรรมทั้งหมดบนบล็อกเชนในรูปแบบของสัญญาอัจฉริยะ

การเกิดขึ้นของ DAO ใน Web3

DAO เป็นองค์กรที่ควบคุมตนเองและตัดสินใจโดยใช้สัญญาอัจฉริยะของบล็อกเชน DAO ได้รับการออกแบบมาเพื่อรวมชุมชนของบุคคลที่มีแนวคิดเดียวกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันโดยไม่ต้องมีหน่วยงานกลาง ด้วยการเปิดเผยและตรวจสอบสัญญา การตัดสิน และธุรกรรมทั้งหมดบนบล็อกเชนแบบเปิด ทำให้ Web3 เปิดใช้งานการเป็นเจ้าของส่วนบุคคลได้

DAO สนับสนุนการเป็นเจ้าของชุมชนใน NFT สมาชิกสามารถเข้าถึงคลังสมบัติในตัวและลงคะแนนเลือกในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น ราคา NFT ที่เพิ่มขึ้นทำให้คอลเล็กชันจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้แต่ละราย

PleasrDAO ช่วยให้สมาชิกแบ่งปันค่าใช้จ่ายและเป็นเจ้าของ NFT ยกระดับสนามแข่งขันและสนับสนุนการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมของการกระจายอำนาจ

DAO เพิ่มการมีส่วนร่วมของ Web3 และลดโอกาสในการทุจริตหรือการเซ็นเซอร์ ตั้งแต่ DAO โซเชียลมีเดีย เช่น Friends with Benefits ไปจนถึงการกำกับดูแล DAO ในการเล่นเกมเพื่อสร้างรายได้ DAO จะอยู่รอดได้เมื่อกระจายไปยังองค์กรไม่แสวงหากำไร การเงินแบบกระจายอำนาจ และการรวบรวม NFT เมื่อบรรลุฉันทามติแล้ว DAO สามารถตัดสินใจได้ทันทีโดยไม่มีความล่าช้าตามลำดับชั้น

ปัจจุบัน ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและการชำระเงินกำลังนำโปรแกรม Web3, NFT และ DAO มาใช้ ทำให้ผู้ใช้ Web3 เข้าใจถึงการเป็นเจ้าของร่วมกันและความสามารถในการเข้าถึงได้

Web3 และ DAO จะเปลี่ยนอนาคตของการทำงานได้อย่างไร?

เนื่องจากจำนวน DAO เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอนาคต เราอาจไม่ได้ทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สำหรับบริษัทเดียวอีกต่อไป แต่แบ่งเวลาให้กับ DAO หลายๆ แห่ง โดยแต่ละแห่งแบ่งเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แน่นอนว่าผู้ใช้งานในยุคแรก ๆ ในพื้นที่นี้ได้ดำเนินการไปแล้ว วิดีโอบล็อกเกอร์ บล็อกเกอร์ และพอดคาสต์มีมากมายในระบบเศรษฐกิจของผู้สร้างในปัจจุบัน ซึ่งนำเสนอภาพรวมของโลกแห่ง Web3 ของการทำงาน ครีเอเตอร์ทั่วไปมีรายได้จากโครงการต่างๆ รวมถึงการฝึกสอน การให้คำปรึกษา และการสร้างรายได้จากเนื้อหาบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube, SubStack และ Patreon

เนื่องจาก DAO มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี การทำงานของอัลกอริทึมพื้นฐานจึงอาจเป็นไปโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้มีส่วนร่วมมีความคิดสร้างสรรค์และช่วยเหลือตนเองมากที่สุด ช่วยให้พวกเขาใช้เวลามากขึ้นกับกิจกรรมที่มีมูลค่าสูงซึ่งกระตุ้นสถานะการไหล และใช้เวลาน้อยลงกับงานพื้นๆ

ต้องขอบคุณ DAO ที่ทำให้การร่วมงานกันจะมีทางเลือกมากขึ้นในการเลือกความคิดริเริ่มที่มีพันธกิจและวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับ งานที่ตรงกับความสามารถของพวกเขา และได้ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่มีค่านิยมตรงกัน

การลงคะแนนในประเด็นสำคัญสามารถทำได้โดยใช้โทเค็น DAO ดั้งเดิมของผู้สนับสนุน ส่วนการ Snapshot เป็นระบบการลงคะแนนเสียงแบบกระจายอำนาจที่ให้กรอบเวลาแก่คุณในการตัดสินใจที่สมาชิก DAO กำลังลงคะแนน ดังนั้นคุณจึงได้เห็นว่าการลงคะแนนนั้นเป็นอย่างไร

Web3 และ DAO สามารถนำการเปลี่ยนแปลงใดมาสู่พื้นที่อื่นได้บ้าง?

ในอนาคต DAO จะดำเนินการในทุกสาขาอาชีพ กิจกรรมและการโต้ตอบประจำวันจะถูกบันทึกไว้ในบล็อกเชนและแสดงด้วยเหรียญ NFT สัญญาอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะทำให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ ระบบการเงินและการเงินในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการเงินแบบกระจายอำนาจและสกุลเงินดิจิทัล Metaverse จะเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมในฐานะโครงสร้างพื้นฐานใหม่

นอกจากนี้องค์กรการกุศลยังได้รับประโยชน์อย่างมากจากกรอบการทำงานของ DAO ซึ่งส่วนมากงานบริหารและการตัดสินใจจัดสรรเงินทุนอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่ากิจกรรมการกุศล แต่ถ้าใช้ระบบ DAO จะช่วยกระจายเงินทุนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

DAO สามารถเพิ่มการยอมรับและการลงทุนใน DeFi DAO ที่ใช้สกุลเงินดิจิทัลนำเสนอการทำธุรกรรมแบบ peer-to-peer ที่มีต้นทุนต่ำและเกือบจะทันทีโดยปราศจากภาระผูกพันจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม สมาชิกได้รับผลตอบแทนจากเงินกู้หรือค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสูงกว่าสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม พื้นที่นี้เติบโตอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสัญญาณของการชะลอตัว

NFT และ DAO สำหรับการซื้อและจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลช่วยให้เกิดเศรษฐกิจของผู้สร้างในสื่อสังคมออนไลน์และผู้สร้างเนื้อหายุคนี้ ผู้สร้างได้รับประโยชน์โดยตรงเนื่องจากแบรนด์ ฐานแฟนคลับ และองค์กรเป็นผู้กำหนดคุณค่าของงานของตัวเอง

บทสรุป

ในปี 2023 มี DAO ประมาณ 11,000 แห่ง แม้ว่า DAO ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีการใช้งานในโครงการต่างๆ แล้ว โครงการเหล่านี้รวมถึงชมรมโซเชียลมีเดีย การให้ทุน เกมหารายได้เพื่อเล่น กำเนิด NFT กองทุนร่วม องค์กรการกุศล และโลกเสมือนจริง สินทรัพย์จำนวนมากที่ถือครองอยู่ใน DAO ซึ่งวัดโดย Total Value Locked (TVL) นั้นกระจุกตัวอยู่ในแผน DeFi เช่น Uniswap, Curve, Balancer และอื่นๆ เมื่อมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ ในสาขานี้ ผู้คนจำนวนมากก็จะเข้าร่วม ซึ่งส่งผลต่ออนาคตข้างหน้าอย่างมากมาย

DAO ใน Web3 เปลี่ยนความสัมพันธ์ของการทำงานอย่างไร?