ราคาของ Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์หลังจากการ Halving ครั้งที่สี่ โดยเทรดเดอร์บางรายคาดการณ์ว่าจะลดลงอีกถึง 47,000 ดอลลาร์ เนื่องจาก Spot Bitcoin ETF แห่งแรกของเอเชียเปิดตัวในฮ่องกงและการเปิดตัวโปรโตคอล Runes ไม่สามารถช่วย BTC ได้ เราลองย้อนกลับไปดูผลกระทบของ Bitcoin halving ต่อ BTC อีกครั้ง

ไฮไลท์:

· Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์; คาดว่าจะมีการร่วงลงลึกกว่านี้

· ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่า Bitcoin มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ตลาดกระทิงในระยะยาวหลังการลดลงครึ่งหนึ่ง

· อุปทานรวมสูงสุด 21 ล้านเหรียญทำให้เกิดความขาดแคลน BTC ในระยะยาว

· ควรรวมกรณีการใช้งานและอนุพันธ์ของ Bitcoin เพิ่มเติมเมื่อพิจารณาถึงแนวโน้ม BTC

Bitcoin Halving คืออะไร?

Bitcoin halving เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการเงินของ Bitcoin ที่เกิดขึ้นทุกๆ สี่ปีโดยประมาณ ในระหว่างที่ Bitcoin halving รางวัลที่มอบให้กับนักขุดสำหรับการตรวจสอบและเพิ่มบล็อกใหม่ให้กับบล็อกเชนจะถูกลดลงครึ่งหนึ่ง

Bitcoin halving คือการปรับที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าในโปรโตคอล Bitcoin ซึ่งจะช่วยลดอัตราในการสร้าง Bitcoins ใหม่และนำเข้าสู่การหมุนเวียน การลดลงของรางวัลบล็อกมีผลกระทบอย่างมากต่ออัตราการออก Bitcoin เนื่องจากจะควบคุมอุปทานของ Bitcoins ใหม่ และค่อยๆ ลดจำนวนการเข้าสู่ตลาด

Bitcoin halving ช่วยให้มั่นใจได้ถึงอุปทานของ Bitcoin ที่จำกัด โดยมีอุปทานรวมสูงสุด 21 ล้านเหรียญ

Bitcoin Halving: มุมมองทางประวัติศาสตร์

เมื่อมองย้อนกลับไปที่การ Halving สามครั้งก่อนหน้านี้ เราจะเห็นรูปแบบบางอย่างของราคา Bitcoin

การ Halving ครั้งแรก (28 พฤศจิกายน 2012): การ Halving ครั้งแรกทำให้รางวัลบล็อคของ Bitcoin ลดลงจาก 50 BTC เหลือ 25 BTC ในช่วงหลายเดือนก่อนการ Halving ราคาได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยแตะจุดสูงสุดที่ประมาณ 12 ดอลลาร์

หลังจากการ Halving ราคามีการปรับฐานในระยะสั้น ตามมาด้วยช่วงระยะเวลาของการแข็งค่า อย่างไรก็ตาม ในเดือนและปีถัดมา ราคาเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว และปลายปี 2013 Bitcoin พุ่งสูงถึง 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในตอนนั้น

การ Halving ครั้งที่สอง (9 กรกฎาคม 2016): การ Halving ครั้งที่สองลดรางวัลบล็อกจาก 25 BTC เหลือ 12.5 BTC คล้ายกับครั้งแรก ราคาของ Bitcoin มีการขึ้นราคาอย่างมีนัยสำคัญก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ ราคาขึ้นไปยังประมาณ 650 ดอลลาร์ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนการ Halving

หลังจากการ Halving มีช่วงเวลาที่ราคาคงที่และต่อมาเป็นการเคลื่อนไหวของการขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ แต่ใช้เวลาหลายเดือนในการกลับมาทะลุของราคาก่อนการ Halving การเคลื่อนไหวของ Bitcoin ที่แท้จริงเริ่มต้นในช่วงปลายปี 2016 และต่อเนื่องไปถึงปี 2017 โดยราคาของ Bitcoin ได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยทะลุ 20,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้

การ Halving ครั้งที่สาม (11 พฤษภาคม 2020): การ Halving ครั้งที่สามลดรางวัลบล็อคจาก 12.5 BTC เป็น 6.25 BTC ในช่วงหลายเดือนก่อนการ Halving ครั้งนี้ Bitcoin มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยแตะจุดสูงสุดที่ประมาณ 10,000 ดอลลาร์

หลังจากการ Halving มีการปรับฐานราคาในระยะสั้น แต่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นขาขึ้น Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 และต้นปี 2021 ในที่สุดก็แตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่มากกว่า 64,000 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2021

ความขาดแคลนเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อน BTC

Bitcoin ทำจุดสูงสุดตลอดกาล (All-Time High) ที่ 73,047 ดอลลาร์บน CoinEx

เหตุการณ์ Bitcoin Halving ทั้งสามเหตุการณ์ได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบในแต่ละครั้งที่คล้ายคลึงกันในด้านประสิทธิภาพราคา ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างมากก่อนการ Halving เนื่องจากความต้องการและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น เมื่อตลาดเผชิญกับการ Halving โดยปกติแล้วจะมีช่วงระยะเวลาของการรวมราคาและการแก้ไขสั้นๆ แต่ในระยะยาว ราคาของ Bitcoin มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ตลาดกระทิงเนื่องจากการขาดแคลนสินทรัพย์และความต้องการที่เพิ่มขึ้น

การ Halving ครั้งล่าสุดลดรางวัลบล็อกจาก 6.25 BTC เป็น 3.125 BTC เนื่องจากอุปทานของ Bitcoins ที่เพิ่งสร้างใหม่เข้าสู่ตลาดลดลง ความรู้สึกขาดแคลนจึงถูกสร้างขึ้นและอาจสามารถเพิ่มมูลค่าการรับรู้ของ Bitcoin ได้

สิ่งที่ทำให้การ Halving ครั้งที่ 4 แตกต่างออกไป

ถึงตอนนี้ เรากำลังเชื่อมโยงการ Halving ครั้งที่สี่กับครั้งที่ผ่าน แต่เราไม่ควรมองข้ามว่ามีปัจจัยใหม่ๆ เกิดขึ้นในครั้งนี้

ประการแรก ไม่มีทั้ง Ordinals และ Rune ในช่วงของ Bitcoin halving ที่ผ่านมา The Ordinals เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2022 และ Runes เป็นโปรโตคอลที่เกิดใหม่หลังจากการ Halving ครั้งที่สี่จบลง โดย Ordinals และ Rune ได้ฟื้นฟูระบบนิเวศของ Bitcoin ทำให้เกิดกรณีการใช้งานไม่ใช่เป็นแค่สกุลเงินสำหรับการลงทุน

ประการที่สอง ไม่มี Spot Bitcoin ETF เมื่อ Bitcoin ETF ได้สร้างสะพานเชื่อมระหว่างสกุลเงินดิจิทัลและนักลงทุนแบบดั้งเดิม ทำให้มีการเข้าร่วมการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล และอาจสร้างความต้องการ Bitcoin ที่มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสกุลเงินดิจิทัล โลกของสกุลเงินดิจิทัลดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างเป็นอิสระจากโลกแห่งความเป็นจริง แต่ไม่ควรมองข้ามปัจจัยที่เกิดขึ้นในความเป็นจริง เช่น ความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ปัจจัยเหล่านี้ยังมีศักยภาพที่จะส่งผลต่อแนวโน้มราคา Bitcoin ในระยะสั้นถึงระยะกลาง

แนวโน้ม BTC ในแบบที่ต้องการ

นักลงทุนจำนวนมาก แม้แต่ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับสกุลเงินดิจิทัล ก็ยังเชื่อว่า Bitcoin มีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว

อย่างไรก็ตามการทำความเข้าใจเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงราคาของ Bitcoin บ่อยครั้งไม่สามารถวิเคราะห์จากมุมมองของสกุลเงินดั้งเดิมได้ คำอธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคาบางครั้งอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดที่มีความเสี่ยงสูงของการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล นักลงทุนใน Bitcoin ควรไม่พึ่งพากับแนวโน้มในอดีตมากเกินไปและควรหลีกเลี่ยงการมองโลกในแง่ดีมากเกินไปเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ในอนาคต

เช่นเดียวกับที่กล่าวมาโดยตลอดว่า"ผลงานในอดีตไม่ใช่ตัวชี้วัดสำหรับผลตอบแทนในอนาคต" ติดตามบล็อกของเราและเทรดที่ CoinEx เพื่อที่คุณจะได้รับข้อมูลที่อัปเดตและซื้อขายด้วยความมั่นใจ

*ข้อสงวนสิทธิ์: โปรดทราบว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น CoinEx จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียทางการเงินใดๆ ที่เกิดจากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลขอแนะนำให้คุณควรทำการวิจัยด้วยตัวของคุณเอง

การขึ้น Bitcoin ครั้งต่อไปอาจใช้เวลานานกว่าที่คิด