เงิน Fiat คือ เงินที่ออกโดยรัฐบาลแต่ละประเทศ เป็นผู้ควบคุมการออกและจัดการเงินออกใช้งานโดยปกติแล้วจะมีการออกและจัดจำหน่ายสกุลเงินที่สามารถจับต้องได้เป็นเหรียญและธนบัตรคุณค่าของเงินจะขึ้นอยู่กับนโยบายการคลังที่รับผิดชอบและกฎหมายต่างๆ ประโยชน์ของเงิน Fiat คือ ช่วยให้ธนาคารกลางสามารถควบคุมเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น

สกุลเงิน Fiat

สกุลเงิน Fiat มีต้นกำเนิดมาหลายศตวรรษในประเทศจีน จังหวัดเสฉวนเริ่มออกเงินกระดาษในช่วงศตวรรษที่ 11 ในตอนแรก มันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นไหม ทอง หรือเงิน แต่ในที่สุด กุบไลข่านก็เข้ามามีอำนาจและก่อตั้งระบบสกุลเงิน fiat ขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 นักประวัติศาสตร์อ้างว่าเงินจำนวนนี้เป็นเครื่องมือในการล่มสลายของจักรวรรดิมองโกล ด้วยการใช้จ่ายที่มากเกินไปและภาวะเงินเฟ้อรุนแรง ช่วงศตวรรษที่ 17 เงิน fiat ถูกใช้ในยุโรป โดยสเปน สวีเดน และเนเธอร์แลนด์นำไปใช้ ระบบนี้ล้มเหลวในสวีเดนและในที่สุดรัฐบาลก็ละทิ้งระบบนี้เพื่อมาตรฐานของเงิน จากนั้นเงิน fiat ได้แพร่หลายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกในศตวรรษที่ 20 Richard Nixon ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้นำการแปลงเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นทองคำโดยตรงออก หรือรู้จักกันดีในชื่อว่า "มาตรฐานทองคำ" ปัจจุบัน ประเทศส่วนใหญ่ใช้สกุลเงินfiatที่เป็นกระดาษเป็นวิธีการชำระเงินเท่านั้น

เงิน fiat มักจะมีค่าเทียบกับราคาทองคำหรือสินทรัพย์อื่นๆ และการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเงิน fiat นั้นจะขึ้นอยู่กับการจัดการเศรษฐกิจและการเงินของประเทศนั้นๆ รวมถึงความเสี่ยงในการเกิดภัยคุกคามทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าเงิน fiat ด้วย จะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้

คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)

สกุลเงินดิจิทัล เรียกสั้นๆ ว่าคริปโต คือสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset ) ประเภทหนึ่งที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้า ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเพียงแต่ไม่สามารถจับต้องได้ ถือว่าตัวคริปโตเป็นสกุลเงินในอนาคตที่มีราคาในการซื้อ-ขายแปรผันไปตามกลไกตลาดและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก คริปโตมีคุณสมบัติที่คล้ายกับเงินตราประเทศอื่นๆ เช่น การใช้สำหรับการซื้อขายสินค้าและบริการ การโอนเงินระหว่างบุคคล การเก็บเงิน และการลงทุน แต่ความแตกต่างคือคริปโตไม่ได้มีตัวกำหนดโดยภาครัฐหรือสถาบันการเงินเหมือนกับเงินตราประเทศอื่นๆ

คริปโตถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน(blockchain)ที่เป็นระบบการทำธุรกรรมแบบการกระจายอำนาจ (decentralized) ที่ถูกเก็บไว้บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันทั่วโลก การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนทำให้คริปโตมีความปลอดภัยสูง โอกาสที่จะโดนแฮกน้อยมาก และสามารถติดตามการทำธุรกรรมได้ตลอดเวลา นอกจากนี้คริปโตยังมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมได้ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน แต่บางประเทศยังไม่ถูกกฎหมาย

ความแตกต่างระหว่าง เงิน fiat กับ Cryptocurrency

เงินFiat เป็นสกุลเงินประจำชาติที่รัฐบาลออกมาและควบคุมการเผื่อใช้เป็นเงินในประเทศ ตัวอย่างเช่น เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา บาทไทย หรือยูโรของยุโรป ส่วน Crypto เป็นสกุลเงินที่ไม่ได้รับการออกโดยรัฐบาลหรือธนาคารกลาง อย่างใดอย่างหนึ่งจะมีความเชื่อมั่นได้มาจากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)

การใช้งาน

ปัจจุบันจะมีหลากหลายธุรกิจที่อนุมัติให้มีการใช้ Cryptocurrency ในการชำระค่าสินค้าหรือบริการแต่ก็ถือว่ายังไม่ทั่วถึงมาก แต่การใช้ Fiat ยังมีความหลากหลายและมีสภาพคล่องสูงกว่า รวมถึงสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายกว่า Cryptocurrency ความปลอดภัยในการทำธุรกรรม

Cryptocurrency ที่มีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) มาใช้ในการเก็บข้อมูล มีความปลอดภัยสูงกว่า Fiat อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นการเก็บข้อมูลที่มีการเชื่อมต่อกันเป็นสายๆ ทำให้สามารถตรวจสอบได้และไม่สามารถแก้ไข้ข้อมูลได้ ถ้าเกิดเราจะต้องการแฮคใครก็จะต้องแฮคทั้งระบบ สามารถทำได้ยากมาก ในขณะที่ Fiat ที่ถูกเก็บไว้ในธนาคาร จะมีระบบ Database ไว้เก็บข้อมูลสำหรับการทำธุรกรรมซึ่งสามารถแฮคและแทรกแซงได้ง่าย แต่ใช่ว่า Crypto จะไม่สามารถโดนแฮคได้เลยเพราะช่วงนี้เกิดการแฮคค่อนข้างบ่อยเลย ถ้าผู้ใช้งานในโลก Crypto จะต้องเก็บ Private keys ของ metamask ไว้ให้อย่างดีไม่งั้นสินทรัพย์ที่เรามีอยู่บน metamask จะสูญหายไปทั้งหมด

สรุป

เงินFiat เป็นสกุลเงินประจำชาติที่รัฐบาลออกและควบคุมการเผื่อใช้เป็นเงินในประเทศ มีความเสี่ยงต่อการเสื่อมค่าเแต่มีความมั่นคงสูงกว่าสกุลเงินดิจิตอลเนื่องจากมีการควบคุมและการจัดการจากรัฐบาลและธนาคารกลางใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการได้ทั่วไปในทุกๆ ประเทศไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อใช้งาน

Cryptocurrencyเป็นสกุลเงินที่ไม่ได้รับการออกโดยรัฐบาลหรือธนาคารกลาง ผู้ออกเหรียญ สามารถเป็นใครก็ได้มีความเชื่อมั่นได้มาจากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน(Blockchain) ซึ่งทำให้มีการตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกรรมอย่างเป็นอิสระ ไม่จำเป็นต้องผ่านธนาคารหรือบัตรเครดิตในการทำธุรกรรมมีความเสี่ยงสูงขึ้นในการเลือกลงทุนเนื่องจากไม่มีการควบคุมและจัดการจากภาครัฐ มีความเป็นส่วนตัวและไม่ต้องใช้ชื่อจริงในการใช้งาน Fiat สามารถจับต้องได้ แต่Cryptocurrency ไม่สามารถจับต้องได้ Crypto เปรียบเสมือนเงินที่ลอยอยู่บนภายในอากาศที่เราไม่สามารถมองเห็นและจับต้องมันได้เลย แนะนำเลยว่าควรที่จะศึกษาระหว่างเงิน Fiat กับ Crypto เตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ศึกษาก่อนได้เปรียบกว่าคนอื่น